12 ก.พ. 2554

ในที่สุดก็คลอดแล้ว www.piano-ohyes.com

หลังจากหายไปนั่งหลับหูหลับตาทำเว็บอยู่ กลับมาวันนี้เมื่อเว็บคลอดแล้ว เพิ่งมีเวลาโงหัวขึ้นมาดูโลกภายนอก ลองกลับไปดูไดอารี่ครั้งสุดท้ายที่เขียนไว้คือวันที่ 29 พ.ย. 2553 วันนี้ 12 ก.พ. 2554 สรุปเวลาที่ดำดินทำเว็บอยู่ก็ประมาณ 2 เดือนก่าๆ จาก scope ตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าจะขึ้นเนื้อหาถึงเกรด 3 จากนั้นเปลี่ยนแผนมาเป็นเกรด 1 แต่ตอนนี้เปลี่ยนแผนเป็นแค่ประมาณเล่ม 1A ของหนังสือ Alfred ซึ่งห่างไกลจากที่ตั้งเ้ป้าไว้มาก (น้อยกว่าครึ่ง) แต่ไม่เป็นไร ค่อยๆ อัพเดตไปเรื่อยๆ ละกัน ทำได้แค่ไหนแค่นั้นก่อน ดีกว่าล้มเลิกไป

10 ธ.ค. 2553

รีวิวหูฟัง Monster Beats by Dr. Dre : Studio


ในที่สุดผมก็ได้เป็นเจ้าของหูฟังสุดหรูตัวนี้สักที ก็เลยจับมารีวิวซะเลย หลายๆคนคงเคยเห็นเจ้าตัวนี้ออก MV หลายเพลงมาก่อน เพราะมันสวยมากๆ ผมคิดว่าสวยที่สุดละตอนนี้ ก่อนอื่นเลยเราก็มาดูตั้งแต่ตอนจะเปิดกล่อง

ภายนอกช่างหรูหราสุดๆ กล่องใหญ่ดี  แต่รูปที่ลง มันโดนผมแกะจนเละไปซะแล้ว
จากนั้นก็เปิดภายในจะเป็นกล่องสีแดงแบบแข็งแรงอีกชั้น แล้วก็พบกับ อวัยวะภายในมัน ซึ่งประกอบไปด้วย ตับ ปอดสองข้าง  เอ๊ยยย ไม่ช่ายยยยย      ประกอบไปด้วย สายหูฟัง ซึ่งมีสองแบบ สีดำกับแดง สีดำจะมีไมค์และปุ่มกดรับสายวางสายโทรศัพท์ ใช้ได้กับ iPhone และ BB บางรุ่นเท่านั้นนะจ๊ะ ส่วนสายที่จะสามารถควบคุมกดเพิ่มเสียงลดเสียงได้นั้น ต้องซื้อแยก ซึ่งเป็นสายของรุ่น solo  ราคาประมาณ 990 บาท    ส่วนอื่นๆ ก็มีแจ๊คต่อกับแอมป์  ถ่านสองก้อน  ประเป๋าใส่หูฟัง ผ้าเช็ด คู่มือ และ headphone


หูฟังนี้มีระบบ noise-cancelling ด้วย โดยมันจะปล่อยคลื่นเสียงออกมาตัดกับคลื่นเสียงภายนอกให้กลายเป็นศูนย์  แต่มันตัดได้ดีเฉพาะเสียงหึ่งๆ หรือจี๊ดๆ  เสียงคุย เสียงอะไรที่มาแล้วหาย ไม่ค่อยตัด ดังนั้น ถ้าใครอยากได้หูฟังที่กันเสียงรบกวนได้ดีควรเลือกไปเล่น in-ear ดีกว่า  


และที่ผมรำคาญที่สุดคือ ถ้าฟังในห้องเงียบๆ มันมันไม่มีเสียงมาตัดกับระบบ เราก็จะได้ยินเสียงจี๊ดๆ จากหูฟังแทน  แถมฟังใกล้กับคอมที่ต่อเนต หรือโทรศัพท์ที่มีคนคุยอยู่ ก็มีสัญญาณรบกวนด้วย

ต่อมาพูดถึงเรื่องเสียงดีกว่า หลังจากเบิร์นให้ไดรเวอร์มันเข้าที่  เสียงดีขึ้นเล็กน้อย เพราะเสียงมันดีอยู่แล้ว  เนื่องจากมันมี แอมป์ในตัว เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบพกแอมป์       เสียงหูฟังรุ่นนี้ จะหวานไม่มาก  เสียงร้องอยู่หลังหน้าผาก แหลมไม่บาดหู ช่วงเสียงกว้าง ตอบสนองได้ทุกความถี่ที่หูมนุษย์ได้ยิน  วิธีการทดสอบนั้นหาคลิปเสียงไล่ความถี่ได้จากยูทูปเลยครับ  กรุ๊งกริ๊งใส  กีตาร์นั้นดีมาก ได้อารมณ์มาก เนื่องจากค่ายนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องเสียงกีตาร์อยู่พอควร  มันจึงเหมาะกับคนฟังเพลงร๊อค    เบสกระแทกได้ใจ สะเทือนถึงอก  เบสนั้นแทบไม่ต้องใช้สมาธิฟังก็ได้ยินชัดเจน จนรับรู้ได้ถึงการดีดสายเบส  ฟังออกได้ชัด เห็นเป็นตัวโน๊ต  ส่วนเรื่องเสียงกลองนั้นไม่แพ้ยี่ห้ออื่นๆแน่นอน   ส่วนเสียงเอฟเฟคต่างๆ ไม่ผิดหวัง แถมยังได้เอฟเฟคที่หูฟังยี่ห้ออื่นไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อีกด้วย โดยเอฟเฟคผมใช้เพลงของ black eyes peas ทดสอบครับ เพราะมันขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่แห่งเพลง electronic     ทั้งนี้ไฟล์เพลงต้องคุณภาพสูงด้วยนะครับ  ไม่ใช่แค่ mp3  

ซาวด์สเตจกว้าง ไม่อึดอัดเลย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในที่โล่งๆ อันนี้ก็แล้วแต่เพลงที่เขาอัดมานะครับ แต่พอดีผมใช้ ไฟล์เพลงของ dolby ทดสอบ ออกมาได้ผลที่น่าประทับใจสุดๆ ใช้ดูหนังนี่ คุณภาพดีกว่าโรงหนังเยอะ


เรื่องเสียงผมก็ขอพูดถึงแค่นี้ละกัน เพราะจะดีที่สุดคือ ต้องลองไปฟังว่าใช่หูฟังแนวที่เราต้องการไหม   หูฟังนี้ก็จะเหมาะกับพวกฟัง hiphop  rap  r&b rock เป็นพิเศษ แต่แนวอื่นก็ไม่ได้น้อยหน้า


มาพูดถึงการพกพา  ผมก็ใช้เจ้ากระเป๋าที่มันให้มา ผ้าเช็ด และถ่านชาร์จที่ซื้อเองเพิ่ม พกติดตัวไว้ตลอด ซึ่งลำบากหน่อยเพราะกระเป๋ามันใหญ่เอาเรื่องเหมือนกัน   ในกระเป๋าจะมีช่องให้ใส่ผ้าเช็ดและใส่ถ่าน
กระเป๋านั้นทนทานแข็งแรง ผ้าเช็ดนั้น ไม่เหมาะกับหูฟังรุ่นสีขาว เพราะสีจากผ้าจะทำให้หูฟังของท่านกลายเป็นสีชมพูไปโดยปริยาย (อันนี้ได้ยินข่าวมา) แต่ก็น่าจะจริงเพราะผ้ามันเคลือบสารอะไรไว้ไม่รู้สีแดงๆ และที่ป้ายตรงผ้าเขียนไว้ว่า เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรีย ห้ามซัก !!!!!!

หูฟังนั้นเปื้อนรอยมือได้ง่ายมากๆ ผ้าเราจึงควรพกไว้ตลอดถ้าอยากให้มันเงาแวววาว เท่ห์ๆ รับรองว่าใส่ไปที่ไหน คนมองตลอด เหมาะสำหรับพวกชอบโชว์  ผมก็นิดนึง อิอิ


เนื่องจากความสวยของมัน ผมก็เลยขอถ่ายรูปคู่กับ iPod ผมสักหน่อย เวลาไปที่ไหน ผมก็จะพกคู่นี้แหละที่ไปด้วยกัน สะดวกและแนวมากครับ

เรื่องราคานั้นอยู่ในระดับแพงหูฉี่อยู่ สนน ราคาที่ 13,900 บาท ณ ตอนนี้มันลด 10 เปอร์เซนต์  ราคาเต็มคือ 15,500 บาท ครับ ใครเล็งไว้ว่าอยากได้ก็รีบสอยซะตอนนี้








29 พ.ย. 2553

ความคืบหน้า ครั้งที่ 2 : เปลี่ยนแผน

จากตอนแรกกะว่าจะขึ้น Content ถึงเปียโนเกรด 3 แต่หลังจากลองมานั่งเขียนหัวข้อที่ต้องพูดถึง ปรากฏว่ามีเยอะมาก (ลืมนึกไปว่าขนาดตอนสอนจริงๆ ยังต้องใช้เวลากว่าปีกว่าจะถึงเกรด 3) ประกอบกับการจัด Content ให้เป็นหมวดหมู่และต้องเรียงตามลำดับจากง่ายไปยากด้วย ทำให้มีอะไรที่ต่องทำเยอะแยะมากมายกว่าที่คิด ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน

24 พ.ย. 2553

ความคืบหน้า ครั้งที่ 1

ไปอ่านเจอคนบ่นเกี่ยวกับความยากลำบากของการทำเวปภาษาไทย เนื่องจากค่าคลิกถูกเหลือเกิน เท่าที่อ่านๆ แล้วสรุปออกมาได้ว่า ถ้าทำเป็นบล็อก โอกาสมีรายได้เป็นกอบเป็นกำนั้นน้อยมาก เพราะคนคงเข้าน้อย ถ้าจะทำเวปไทยต้องทำเป็นเวปที่มีเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราวทีเดียว ซึ่งจากตอนแรกใจหายวูบว่าจะไปรอดหรือไม่ ก็กลับมามีกำลังใจขึ้นหน่อย เพราะมีคนที่ทำเวปไทยยืนยันหลายคนว่ามีรายได้จริงและเยอะด้วย และผมมั่นใจอย่างนึงว่า content ผมไม่แพ้ใคร จะเสียเปรียบหน่อยก็ตรงกลุ่ม target เป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ถือว่าเป็น project นำร่องคับ ที่ได้แน่ๆ คือประสบการณ์ และตอนนี้เลยยังยืนยันเป้าหมายเดิม คือ เป็นเวปไทยคับ

22 พ.ย. 2553

ความคิด

หลังจากทำตามคำแนะนำของคุณชาญวิทย์แห่ง http://blog.thaiadpoint.com ว่าให้ทำเวปเกี่ยวกับที่เราชอบ ผมได้ตัดสินใจออกมาแล้วว่าจะเริ่มด้วยการทำเวปเกี่ยวกับการเล่นเปียโน เหตุผมไม่ใช่อะไรเลย แต่เพราะความชอบคำเดียว หลังจากได้หัวเรื่องแล้ว ผมก็เริ่มลงมือทำแล้วคับ!!! ผมแบ่งงานได้ 3 ส่วนคือ

1. งานเกี่ยวกับเวป โดยรายละเอียดมีดังนี้

ชื่อเวป หรือ Domain name ผมคิดไว้แล้วครับ แต่กะว่าให้เวปไซต์มันเป็นรูปเป็นร่างกว่านี้อีกหน่อย อย่างน้อยให้ได้ซัก 50% แล้วผมค่อยไปจดโดนเมน ส่วนชื่อโดเมนนั้น ยังไม่บอกครับ เพราะกลัวโดนคนแย่งไปจดครับ 555